พลังงาน จับมือ ก.มหาดไทย จัดสรรงบกองทุนอนุรักษ์ฯ 2,400 ล้าน กระตุ้นการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก

กระทรวงพลังงานเร่งจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานลงสู่กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ผลักดันโครงการด้านเทคโนโลยีพลังงานทดแทนหรือการอนุรักษ์พลังงานผ่าน 3 กลุ่มใหญ่คือ สถานีพลังงานชุมชน ระบบสูบน้ำโซลาร์เซลล์ และการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ หวังกระตุ้นเม็ดเงิน 2,400 ล้านบาทสร้างงานสร้างรายได้กระจายสู่ชุมชน

วันนี้ (14 ม.ค. 64) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันชี้แจงนโยบายกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกลเกี่ยวกับแนวทางการขอรับการสนับสนุนงบประมาณกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปี 2564 สำหรับจังหวัดทั่วประเทศ โดยมี นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ร่วมชี้แจงรายละเอียด ณ ห้องประชุมราชสีห์  ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย

รองนายกฯ และ รมว.พน. เปิดเผยหลังการชี้แจงดังกล่าวว่า ตามที่กองทุนฯ มีงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจำนวน 6,500 ล้านบาท โดยงบประมาณส่วนที่สำคัญ  คือ งบประมาณที่จะใช้ในทางการสนับสนุนโครงการภายใต้กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก จำนวน 2,400 ล้านบาท ที่มุ่งส่งเสริมให้ชุมชนทั่วประเทศนำเทคโนโลยีพลังงานไปใช้ในการสร้างงาน สร้างรายได้  โดยจะกระจายไปในโครงการสำคัญๆ 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1) สถานีพลังงานชุมชน เป็นการส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานภายใต้แนวคิด ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ โดยสามารถขอรับการสนับสนุนเทคโนโลยีเดี่ยว หรือหลายเทคโนโลยีที่ประกอบกัน ได้แก่ เทคโนโลยีระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์แบบเคลื่อนที่, เตาชีวมวลประสิทธิภาพสูง, ชุดครอบหัวเตาแก๊สประสิทธิภาพสูง, ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์, ระบบผลิตแก๊สชีวภาพจากของเสีย เป็นต้น

 2) ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับบ่อบาดาล โซลาร์เซลล์ขนาด 2.5 กิโลวัตต์ และถังพักน้ำขนาดบรรจุ 20 ลบ.ม.

3) การผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ สำหรับพื้นที่ที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง/ไม่มีไฟฟ้า (off Grid) ได้แก่ บ้านอยู่อาศัย กลุ่มชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และ โรงเรียนในสังกัดของรัฐบาล

สำหรับกรอบวงเงิน 2,400 ล้านบาทจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกให้แก่จังหวัดๆ ละ 25 ล้านบาท           รวม 76 จังหวัด รวม 1,900 ล้านบาท ส่วนกรอบวงเงินที่เหลือ 500 ล้านบาท จะใช้เป็นงบกลางสำหรับรองรับโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร (บ่อบาดาล) ที่เกินกรอบวงเงินของจังหวัด

 

ทั้งนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ส่วนราชการภูมิภาค และส่วนราชการส่วนกลางที่มีที่ตั้ง ในจังหวัด สามารถยื่นขอรับการสนับสนุนกับทางจังหวัดได้ โดยจะมีคณะกรรมการบริหารจังหวัด แบบบูรณาการ (กบจ.) เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบกลั่นกรองเรียงลำดับความสำคัญก่อนที่จะให้ อปท.  ส่วนราชการภูมิภาค หรือส่วนราชการส่วนกลางที่มีที่ตั้งในจังหวัดยื่นข้อเสนอเข้าระบบให้กับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ทั้งนี้ จะได้มีการกำชับให้หน่วยงานจัดทำระบบตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผลโครงการ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญเรื่องความพร้อมในการบำรุงรักษา ประชาชนจะต้องใช้งานได้จริง คาดว่าจะเปิดรับข้อเสนอโครงการเข้าระบบภายใน 31 มีนาคม 2564 โดยกองทุนฯจะประกาศเกณฑ์รายละเอียด ต่อไป

Visitors: 11,025,259