ก.พลังงานสั่งการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุท่อส่งก๊าซระเบิดอย่างเต็มที่
จากกรณีที่ได้เกิดเหตุก๊าซธรรมชาติรั่วและเกิดเพลิงไหม้
บริเวณตรงข้ามวัดเปร็งราษฎร์บำรุง ถนนเทพราช – ลาดกระบัง ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้เกิดก๊าซฯ
ฟุ้งกระจายสู่บรรยากาศและเกิดการติดไฟนั้น นายกุลิศ
สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าวว่าได้รับรายงานเบื้องต้น
ว่าสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบจาก กรมธุรกิจพลังงาน ร่วมกับ ปตท.และ กฟผ. และเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้บาดเจ็บจำนวน 28 ราย
และนำส่ง รพ. ลาดกระบัง,
รพ.บางบ่อ, รพ.บางเสาธง, รพ.จุฬารัตน์ 11, รพ.บางนา 2, รพ.
พุทธโสธร, รพ.บ้านโพธิ์และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบความเสียหายต่อชุมชน โรงเรียน และ
โรงงาน ในนิคมเอเชียสุวรรณภูมิ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการที่อยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ
ในส่วนการผลิตไฟฟ้านั้น
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สายส่งไฟฟ้าแรงสูงของการไฟ้ฟาฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ขนาด 230 กิโลโวลต์ (kV)
คลองใหม่ – ลำลูกกา วงจร 1 และ 2 ขัดข้อง
แต่ยังสามารถส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ประชาชน โดยนำสายส่งชั่วคราว 230 kV พระนครใต้-เทพารักษ์เข้าใช้งาน
รวมทั้งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมบางปะกงหน่วยที่ 5
และเดินเครื่องโรงไฟฟ้าวังน้อย หน่วยที่ 3
ซึ่ง กฟผ.ยืนยันไม่กระทบกับผู้ใช้ไฟอย่างแน่นอน
“กระทรวงพลังงานขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ได้สั่งการให้กรมธุรกิจพลังงาน ประสาน
ปตท. กฟผ.บูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการ โดยให้บริษัท
ปตท.จำกัด(มหาชน)บริหารจัดการสถานการณ์ในเหตุการณ์ดังกล่าวให้ดีที่สุด เร่งหาสาเหตุและดูแลความปลอดภัยของประชาชน
การช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยและผู้เสียชีวิต และการชดเชยความเสียหายในส่วนที่เกี่ยวข้อง”
ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าว