คนไทยโล่งอก “กกพ.” ประกาศค่าเอฟที -12.43 สต.สะท้อนเชื้อเพลิงขาลงจากโควิด-19

“กกพ.” ตามติดสถานการณ์เศรษฐกิจ ประกาศลดค่าเอฟทีลงตามภาวะราคาเชื้อเพลิง  มองเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนจนถึงสิ้นปี 

 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2563 ลงอีก 0.83 สตางค์ต่อหน่วย หรือเรียกเก็บค่าเอฟที -12.43 สตางค์ต่อหน่วย ที่สะท้อนต้นทุนราคาเชื้อเพลิงที่แท้จริง ซึ่งลดลงจากเดิมเรียกเก็บที่ -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลงเหลือ 3.63 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

“ถึงแม้ว่าภาวะราคาเชื้อเพลิงจะลดลง เนื่องจากวิกฤติ โควิด-19 และทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดลง
ก็ตาม แต่ กกพ. ยังคงมีความเป็นห่วงเรื่องปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้น ซึ่งยังคงเป็นแรงกดดันให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นได้” นายคมกฤช กล่าว

สาเหตุหลักของการปรับลดค่าเอฟทีงวดนี้ เนื่องมาจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลงก่อนหน้านี้ และมีผลในงวดปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม กกพ. ยังคงต้องประเมินปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และยังไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ชัดเจน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลในทางลบ และเป็นภาระต่อการประมาณการค่าเอฟทีในงวดถัดไปด้วย

ปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟที ในงวด ก.ย. – ธ.ค. 2563  ประกอบด้วย

1. ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2563 เท่ากับประมาณ 58,910 ล้านหน่วย ปรับลดลงจากช่วงเดือน พ.ค.- ส.ค. 2563 ที่คาดว่าจะมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเท่ากับ 69,920 ล้านหน่วย หรือลดลง ร้อยละ -15.75 ในขณะที่ความต้องการพลังงานไฟฟ้ารวมในปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 193,706 ล้านหน่วย ลดลงร้อยละ -1.62 จากปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 196,896 ล้านหน่วย

2. สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2563 ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ร้อยละ 51.13 ถ่านหิน ร้อยละ 17.97 และการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ร้อยละ 20.15 อื่นๆ ร้อยละ 10.75

3. สถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยรวมราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยแต่ละประเภทลดลงจากงวดที่ผ่านมา ตามการปรับลดลงของภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง ดังแสดงในตาราง

 

 

 

ประเภทเชื้อเพลิง

หน่วย

พ.ค. – ส.ค. 63
(ประมาณการ)

[1]

ก.ย. – ธ.ค. 63

(ประมาณการ)

[2]

เปลี่ยนแปลง

[2]-[1]

- ราคาก๊าซธรรมชาติ ทุกแหล่ง*

บาท/ล้านบีทียู

263.19

221.92

-41.27

- ราคาน้ำมันเตา FO 3.5%S

บาท/ลิตร

18.29

15.99

-2.30

- ราคาน้ำมันดีเซล

บาท/ลิตร

22.66

19.00

-3.66

- ราคาลิกไนต์ (กฟผ.)

บาท/ตัน

693.00

693.00

-

- ราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ย (IPPs)

บาท/ตัน

2,488.19

2,454.79

-33.40

หมายเหตุ: *ราคาก๊าซฯ รวมค่าผ่านท่อและค่าดำเนินการของโรงไฟฟ้า กฟผ. และโรงไฟฟ้าเอกชน

4. อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยที่ใช้ในการประมาณการ (วันที่ 1 – 31 พ.ค. 63) เท่ากับ 32 บาท/ดอลล่าห์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากประมาณการในงวดเดือน พ.ค. – ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา ที่ประมาณการไว้ที่ 31.70 บาท/ดอลล่าห์สหรัฐ  อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กกพ. จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บประจำเดือนกันยายน ธันวาคม 2563 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 17 23 กรกฎาคม 2563 ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป 

Visitors: 11,025,039