กระทรวงพลังงานรับพิจารณาข้อเสนอสภาอุตฯเพิ่มเติม พร้อมเร่งผุดมาตรการพลังงาน อุ้ม 32 กลุ่มอุตสาหกรรม พยุงตัวช่วงวิกฤตโควิด - 19

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หารือ กระทรวงพลังงาน ออกมาตรการช่วยเหลือ 32 กลุ่มอุตสาหกรรม บรรเทาผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19  หลังประสบปัญหาความต้องการในตลาดวูบ กระทบผลประกอบการลดต่ำลงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

          วันนี้ (30 เม.ย. 63) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากวันที่รองนายกรัฐมนตรีดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาเป็นประธานการประชุมพิจารณามาตรการช่วยเหลือเรื่อง      ค่าไฟฟ้าเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 เพิ่มเติมให้กับกลุ่มผู้ประกอบการภาคเอกชนนั้น วันนี้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ส่งรายละเอียดข้อเสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการพลังงานเพื่อให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากปริมาณการผลิตคำสั่งซื้อและผลประกอบการลดลงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์  และมีภาระแบกรับค่าใช้จ่ายอย่างเช่นค่าไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงขอเสนอให้กระทรวงพลังงานพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือ 32 กลุ่มอุตสาหกรรม เพิ่มเติมจากมาตรการที่กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการไปแล้ว  อาทิ 1.ขอให้ขยายระยะเวลาการผ่อนผันการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าขั้นต่ำ70%(Demand Charge)ออกไปจนถึงสิ้นปี2563แก่ผู้ประกอบการประเภทที่3-7 จากเดิมที่กำหนดมาตรการช่วยเหลือเวลา 3 เดือน (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม 63)  2.เห็นด้วยกับความช่วยเหลือจากกระทรวงพลังงานเรื่องการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า   ภาคประชาชน แต่ขอให้พิจารณาเรื่องเงินที่ช่วยเหลือดังกล่าวต้องไม่นำไปกระทบค่า FT ในอนาคต โดยเสนอให้   หักเงินช่วยเหลือส่วนนี้จากรายได้ของการไฟฟ้าแทนที่นำส่งกระทวงการคลัง  3.เรื่องการคำนวนค่าFTเสนอให้มี           การประเมินด้วยวิธีการที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงเร็วขึ้น โดยใช้วิธีการคำนวณแบบ 3 Month Moving Average และเทียบเป็นรายไตรมาส

 

“สำหรับมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้เสนอหารือกับ ทางกระทรวงพลังงานนั้น ในเรื่อง Demand Charge ทางกกพ.ได้ดำเนินการแล้วโดยจะเร่งออกประกาศเพื่อทราบ    ในสัปดาห์หน้า ส่วนในเรื่องค่าFT และเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้า กระทรวงพลังงานจะพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป”นายสนธิรัตน์ กล่าว

 

           ทั้งนี้  32 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม ยานยนต์ ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ เครื่องสำอาง      สิ่งทอ หนังและผลิตภัณฑ์หนัง รองเท้า อัญมณีและเครื่องประดับ เหล็ก ปูนซีเมนต์ หลังคาและอุปกรณ์ แกรนิตและหินอ่อน แก้วและกระจก เซรามิค โรงเลื่อยและโรงอบไม้ ไม้อัด ไม้บางและวัสดุแผ่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องจักรกลและโลหะการ เครื่องจักรกลการเกษตร ต่อเรือซ่อมเรือและก่อสร้างงานเหล็ก หล่อโลหะ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สมุนไพร น้ำมันปาล์ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ปิโตรเคมี ก๊าซ            พลังงานหมุนเวียน หัตถกรรมสร้างสรรค์ การจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีชีวภาพ.           

 

               

Visitors: 11,025,108