คปภ. ประกาศ 6 มาตรการเร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ กราดยิงเมืองโคราช
ดร.สุทธิพล
ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณี จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกรมสรรพาวุธ
กองพันกระสุนที่ 22 กองทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา
ก่อเหตุสะเทือนขวัญใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิง ทหาร ตำรวจ และประชาชน
หลังจากนั้นหลบหนีเข้าไปภายในห้างเทอร์มินอล 21 ซึ่งตั้งอยู่กลางใจเมือง
จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต (รวมคนร้าย) จำนวน 30 ราย บาดเจ็บ 58
ราย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563 เบื้องต้นสำนักงาน คปภ.
ได้เร่งตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมดจากเหตุการณ์นี้มีการทำประกันภัยประเภทใดไว้บ้าง
ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการนำระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่
ตามที่มีการเสนอข่าวประชาสัมพันธ์ไปแล้วนั้น
สำนักงาน คปภ.
มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่ง
จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวแบบบูรณาการให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
มีประสิทธิภาพ และครบวงจร ดังนี้
มาตรการที่ 1 ออกคำสั่งขยายระยะเวลาการผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันชีวิตและประกันภัยสุขภาพ
ให้กับผู้เอาประกันภัย
ในกรณีครบกำหนดระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์
ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยขยายระยะเวลาผ่อนผันออกไปอีก 60 วัน
นับแต่วันครบกำหนดระยะเวลาผ่อนผันเดิม
มาตรการที่ 2
ออกคำสั่งยกเว้นดอกเบี้ยและงดการตรวจสุขภาพกรณีกรมธรรม์ประกันชีวิตสิ้นผลบังคับระหว่างวันที่
8 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563
หากผู้เอาประกันภัยขอต่ออายุหรือกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ประกันชีวิต ภายใน
6 เดือน
มาตรการที่ 3 ออกคำสั่งให้ในกรณีนำมูลค่าเวนคืนมาชำระเบี้ยประกันภัยโดยอัตโนมัติ
ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563
อาจได้รับยกเว้นดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
มาตรการที่ 4
ออกคำสั่งอนุญาตให้ตัวแทนประกันภัย นายหน้าประกันภัย
ที่ได้รับผลกระทบและใบอนุญาตตัวแทน นายหน้าประกันภัยสิ้นอายุตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.
2563 ได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563
สามารถยื่นขอขยายระยะเวลาพร้อมขอต่ออายุใบอนุญาตได้ 15 วัน
มาตรการที่ 5
บูรณาการร่วมกับบริษัทประกันภัยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ตลอดจนเร่งรัดดำเนินการพิจารณาสินไหมทดแทน
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบและเยียวยาอย่างทันท่วงที
โดยตรวจพบว่าห้างเทอร์มินอล 21 ได้ทำประกันภัยกับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด
(มหาชน) ประกอบด้วย การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน จำนวนเงินเอาประกันภัย
5,185 ล้านบาท และการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก จำนวนเงินเอาประกันภัย 464 ล้านบาท
ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างส่งผู้สำรวจภัยเข้าไปประเมินความเสียหาย
เพื่อเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้อย่างรวดเร็ว
ในส่วนผู้เสียชีวิต
จำนวน 29 ราย (ไม่รวมผู้ก่อเหตุ) พบว่า มีการทำประกันภัยไว้ทั้งสิ้น 22 ราย
จากบริษัทประกันภัย 17 บริษัท
ซึ่งขณะนี้ได้มีการจ่ายหรือเตรียมการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแล้ว
สำหรับผู้บาดเจ็บที่มีการทำประกันภัยไว้ จะได้รับการดูแลและช่วยเหลือตามสัญญาประกันภัยอย่างเต็มที่
รวมถึงความเสียหายอื่นๆ อาทิ ความเสียหายของรถยนต์ หรือทรัพย์สินอื่นๆ
ที่ได้ทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายไว้ บริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง
จะเร่งการจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายหลังจากที่หน่วยงานพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบเสร็จสิ้น
มาตรการที่ 6
สั่งการให้สำนักงาน คปภ. (ส่วนกลาง) บูรณาการร่วมกับสำนักงาน คปภ. ภาค 4
(นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมา
เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ และร่วมงานศพผู้เสียชีวิต
ตลอดจนบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
โดยให้ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน
“สำนักงาน คปภ.
ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว
และจะทุ่มเทสรรพกำลังบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่
เพื่อนำระบบประกันภัยมาเยียวยาความสูญเสีย บาดเจ็บ
และเดือดร้อนจากภัยครั้งนี้โดยเร็ว หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่
สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย