สมาคมประกันชีวิตไทย ชี้ช่องลงทุนสุดคุ้มในยุคดอกเบี้ยต่ำ
สมาคมประกันชีวิตไทย
ชวนประชาชนออมผ่านธุรกิจประกันชีวิต
ชี้ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุดในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน
ย้ำรีบวางแผนบริหารความเสี่ยงและการเงินก่อนขึ้นปีใหม่
เหตุธุรกิจประกันชีวิตทยอยปรับกระบวนทัพสินค้าหนีภาวะดอกเบี้ยต่ำ
นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์
นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า
ในยุคดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้ได้ส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ลงทุนของนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ดังนั้น นักลงทุนและมนุษย์เงินเดือนจึงควรปรับพอร์ตและวางแผนการลงทุนให้เหมาะสม
เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากสภาวะดอกเบี้ยที่ลดลง
โดยการกระจายเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน (Financial Assets) หรือหลักทรัพย์ (Securities) ไว้หลายๆประเภทที่แตกต่างกันเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
แต่ก่อนตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาถึงความสามารถในชำระและระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี หลายๆ
คนกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อช่วยลดหย่อนภาษี
สมาคมประกันชีวิตไทยขอแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ
ทั้งที่เน้นความคุ้มครองและการลงทุน หรือแบบประกันยอดนิยมที่ฝึกวินัยการออมในรูปแบบประกันสะสมทรัพย์
ซึ่ง ณ วินาทีนี้
หากจะซื้อหาไว้ถือว่าเป็นช่วงนาทีทองเพราะเมื่อเทียบกับตลาดการเงินโดยรวมแล้วยังจัดว่าให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง
โดยผลตอบแทนที่จะได้รับเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบที่มีเงินคืนระหว่างปี
หรือเลือกรับผลประโยชน์เต็มจำนวนเมื่อครบกำหนดสัญญา
โดยไม่ต้องเสียภาษีหากแต่ยังสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000
บาท สำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตในแบบทั่วไปที่มีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10
ปีขึ้นไป ส่วนผู้ที่ยังใช้สิทธิ์ไม่เต็มจำนวน
ยังสามารถวางแผนสุขภาพเพิ่มเติมโดยนำเบี้ยประกันสุขภาพมาหักลดหย่อนภาษีได้อีก
15,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เตรียมพร้อมรองรับวัยเกษียณอย่างกรมธรรม์บำนาญก็สามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยมาลดหย่อนได้สูงสุดถึง
200,000 บาท
โดยในช่วงสิ้นปีบริษัทประกันชีวิตจะเตรียมแจ้งลูกค้าและส่งแบบฟอร์มขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากเบี้ยประกันชีวิตและเบี้ยประกันสุขภาพให้ลูกค้าลงนามยินยอมเพื่อยืนยันการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในปี
2562 หากไม่ลงนามยินยอมในเอกสารก็จะไม่สามารถขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้
(ฉบับที่ 315) ประกาศ ณ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560
อย่างไรก็ตามบริษัทประกันชีวิตต่างเริ่มทยอยปรับสินค้าประเภทการันตี
หรือให้ผลตอบแทนสูงเพราะสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ดังนั้น
ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์สะสมทรัพย์ บำนาญ ที่ให้ผลตอบแทนสูง
อาจจะต้องรีบตัดสินใจกันสักหน่อย
ส่วนผู้ที่มีแบบประกันสะสมทรัพย์หรือแบบบำนาญไว้แล้วก็ไม่ควรปล่อยให้ขาดผลบังคับ
เพราะไม่ว่าภาวะเศรฐกิจจะเป็นอย่างไรบริษัทประกันชีวิตจะรักษาสัญญาและจ่ายผลประโยชน์ให้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์เสมอ
และในโอกาสเดือนสุดท้ายปลายปีผู้ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
และที่สำคัญควรทำประกันชีวิตไว้ เพื่อเป็นหลักประกันให้กับชีวิตและความอุ่นใจ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย
กล่าว