วิริยะฯ โชว์นวัตกรรมบริการ คุยเคลมผ่านวีดิโอคอล

วิริยะประกันภัย ทิ้งทวนปี 62 โชว์นวัตกรรมบริการการตรวจสอบอุบัติเหตุแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ให้กับลูกค้าสามารถคุยเคลมผ่านวีดีโอคอล พร้อมเดินหน้าขยายศูนย์เคลมย่อยในพื้นที่รอยต่ออย่างไม่หยุดยั้ง ปลื้ม! ยอดอัตราความยั่งยืนของกรมธรรม์ทะลุ 70% ขณะที่เบี้ย 9 เดือน โตต่อเนื่อง 3.43มั่นใจปิดหีบสิ้นปี เบี้ยเติบโตถึง 4%

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาของการดำเนินงานในปี 2562 แนวทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาการบริการอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้กลยุทธ์ “ผู้นำคุณภาพบริการประกันภัย” ทั้งการพัฒนาบุคคลากรด้านการตรวจสอบอุบัติเหตุรถยนต์และคุณภาพการบริการสินไหมรถยนต์ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดไปถึงการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุด เพราะธุรกิจประกันภัยจะยั่งยืนได้ ไม่ใช่เพียงแค่การทำการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้ายังคงคิดถึงเรา

นายสยมยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้ริเริ่มนวัตกรรมบริการการตรวจสอบอุบัติเหตุผ่านทางบริการวิดีโอคอล (Video Call) อันเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้เอาประกันภัยที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถรับการบริการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอพนักงานเคลมไปยังจุดนัดหมาย ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินการภายใต้กรอบเงื่อนไขโดยยึดหลักว่าลูกค้ามีสิทธิเลือกการบริการที่ลูกค้าพอใจ และหากลูกค้าพร้อมที่จะวีดิโอคอล บริษัทฯ จะทำการส่ง SMS แจ้งยืนยันกับลูกค้า เมื่อลูกค้าตอบรับวีดิโอคอลแล้วจึงจะดำเนินการพูดคุยต่อไป แต่หากลูกค้าปฏิเสธการทำวีดิโอคอลเพราะไม่ถนัดหรือสมาร์ทโฟนไม่รองรับการใช้งาน ลูกค้ายังสามารถเลือกใช้วีธีการนัดเคลมรูปแบบเดิมได้

“บริษัทฯ ได้เริ่มนำร่องทดลองใช้ระบบงานการตรวจสอบอุบัติเหตุผ่านทางวิดีโอคอลกับส่วนงานในพื้นที่กรุงเทพฯ และคงต้องดูแนวโน้มว่าลูกค้ามีความพึงพอใจกับการบริการในรูปแบบนี้มากน้อยแค่ไหน เพื่อที่บริษัทฯ จะได้นำไปปรับปรุงพัฒนาการการบริการให้มีความสมบูรณ์พร้อม เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”

นอกจากบริษัทฯ จะมีสาขาและศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนครอบคลุมทั่วไทยถึง 166 แห่งแล้ว บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายศูนย์บริการย่อยในพื้นที่ที่เป็นรอยต่อของศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนหรือพื้นที่ที่มีการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด เพื่อรองรับการขยายงานด้านบริการสินไหม การรับแจ้งอุบัติเหตุ และตรวจสอบอุบัติเหตุ รวมถึงสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุ ให้สามารถเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยภายในปี 2563 บริษัทฯ จะดำเนินการสร้างศูนย์บริการย่อยเพิ่มอีกในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลให้ครบ 20 แห่ง

 

ส่วนผลประกอบการในรอบ 9 เดือนแรกของปี บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทุกประเภทประมาณ 29,089.95 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ประกันภัยรถยนต์ 25,950.90 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการต่ออายุประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภท ประมาณ 70% และประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ 3,139.05 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 963.79 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 3.43%  โดยคาดว่าเมื่อจบไตรมาส 4 แล้ว มีแนวโน้มที่เบี้ยประกันภัยจะเติบโตถึง 4% จากการมีงาน Motor Expo ที่กำลังจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนธันวา ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการเติบโตได้อีกเล็กน้อย

Visitors: 11,025,160