พพ.-อมตะ ดึงโรงงานปรับตัวสู่อุตสาหกรรมเมืองอัจฉริยะ 4.0เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต-บริการด้วยระบบสมาร์ท เอเนอร์จี้

พพ.จับมือ ภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการนิคมฯ อมตะชิตี้ ชลบุรี อมตะชิตี้ ระยอง รับเทรนด์การใช้นวัตกรรมพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สู่ระบบสมาร์ท เอเนอร์จี้ ด้านอมตะ เดินหน้าศึกษาโปรเจคต์โซลาร์ลอยน้ำสร้างพลังงานสะอาดขับเคลื่อนสมาร์ท ซิตี้ ป้อนอุตสาหกรรมครบวงจร

 

นางสาวนวลจันทร์ เตชะเสริมสุขกูล รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยภายในงานเสวนาหัวข้อ การพัฒนานวัตกรรมพลังงานกับการขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ท ซิตี้ (Smart City)" ว่า เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจ และเผยแพร่ข้อมูลการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง เนื่องจากเป็นพื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ และเป็นพื้นที่มีการใช้พลังงานในสัดส่วนที่สูง จากจำนวนสถานประกอบการที่มีการผลิตอุตสาหกรรมต่างๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งการพัฒนานิคมฯทั้งสองแห่งกำลังมุ่งเข้าสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ท ซิตี้ ในอนาคต ที่สอดคล้องกับการพัฒนาพลังงานของประเทศ ทั้งในด้านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงาน เพื่อการใช้พลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพ สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของการผลิตได้อย่างเป็นรูปธรรมและครบวงจร

ทั้งนี้ พพ.ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงานของประเทศ เห็นความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในทุกภาคส่วน เพื่อให้การใช้พลังงานของประเทศมีความสมดุล และก่อให้เกิดความมั่นคงของระบบการใช้พลังงาน สามารถพึ่งพาการใช้ทรัพยากรในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สามารถสร้างการเจริญเติบโตเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นทิศทางของการพัฒนาด้านพลังงานสู่ สมาร์ท ซิตี้ จะให้ความสำคัญการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาต่อยอดกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบทั้งในภาคการผลิต และการบริการที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่จะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมก้าวไปสู่การเป็นอุตสาหกรรม 4.0 ตามโยบายของรัฐบาล  

การบริหารจัดการด้านพลังงาน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่การวางระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ดังนั้นการขับเคลื่อนไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้น ผู้ประกอบการจะต้องมีส่วนร่วมในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานภายในโรงงานทั้งในด้านการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ การออกแบบอาคารโรงงาน รวมถึงการพัฒนาพลังงานทดแทนรูปแบบต่างๆเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลทำให้ภาคการผลิตของไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและพร้อมก้าวสู่การพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ รวมถึงยังสอดรับแนวทางการลดใช้พลังงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ พ.ศ. 2558-2579 หรือ (Energy Efficiency Plan; EEP 2015) ที่กำหนดเป้าหมายลดการใช้พลังงานร้อยละ 30 ภายในปี 2579นางสาวนวลจันทร์ กล่าว

นายอัครเรศร์ ชูช่วย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะ ฟาซิริตี้ เซอร์วิส จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่มอมตะ กล่าวว่า อมตะได้วางเป้าหมายในการพัฒนา สมาร์ท ซิตี้กำหนดเป็นแผน ระยะ 5 ปี โดยขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของการกำหนดกรอบพื้นที่ในการทำ สมาร์ท ซิตี้ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 10 ตร.กม. โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 2563 ซึ่งในส่วนของสมาร์ท เอเนอร์จี้ หรืออัจฉริยะ ด้านพลังงาน ขณะนี้อมตะได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน อาทิ การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งลอยน้ำ (Solar Floating) และการนำขยะมาพัฒนาเป็นเชื้อเพลิงพลังงานไฟฟ้า เพื่อการนำทรัพยากรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนน้ำ บริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทในกลุ่มอมตะ  จะเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ทั้งด้านการลงทุน และขนาดกำลังการผลิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมในการติดตั้ง ที่จะสามารถนำมาผลิตได้ทั้งในกระบวนการผลิตน้ำที่ป้อนให้กับอุตสาหกรรม รวมถึงรูปแบบการจัดจำหน่ายเพื่อเชื่อมโยงเข้าระบบโครงข่ายไฟฟ้าหลัก (Grid) สำหรับขายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในนิคมฯ ซึ่งจะนำร่องในนิคมฯ อมตะ ซิตี้ ชลบุรี คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มเห็นความชัดเจนประมาณปี 2563

Visitors: 11,025,103