EPCO ลุยขยายงานทั้งโรงไฟฟ้าและสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง ประกาศเดินหน้าเพิ่มทุนขาย RO พ่วงแจกฟรีวอร์แรนต์
บอร์ด EPCO ไฟเขียวเพิ่มทุน ขาย RO ในอัตราส่วน 8 ต่อ 1 ราคาหุ้นละ 3.30 บาท
พ่วงแจกฟรี EPCO-W3 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิในอัตรา 1
หุ้นสามัญใหม่ต่อ 1 วอร์แรนต์
รองรับแผนขยายธุรกิจพร้อมเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ
บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยว่า
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561
ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิมจำนวน 836,030,770
บาท เป็นทุนจดทะเบียน 1,045,038,462 บาท
โดยการเพิ่มทุนรวมทั้งสิ้น 209,007,692 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 209,007,692
หุ้น รองรับเพิ่มทุนขายให้กับถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right
Offering :RO) ในสัดส่วน 8 หุ้นเดิมต่อ 1
หุ้นใหม่ จำนวน 104,503,846 หุ้น ราคาหุ้นละ 3.30
บาท
และรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่3
(EPCO-W3) จำนวน 104,503,846 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
ตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญใหม่ ต่อ 1
ใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย
สามารถให้ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 5
บาท
สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มทุนให้เพียงพอต่อการเตรียมขยายงานทั้งโรงไฟฟ้าและสิ่งพิมพ์ในอนาคต
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น
รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาวด้วย
ทั้งนี้กำหนดเปิดให้จองซื้อและรับชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 26-30 พ.ย.2561 โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน
(Record Date) ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561
และกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นเดิมในวันที่ 26–30
พฤศจิกายน 2561 (5 วันทำการ)
นายยุทธ
กล่าวอีกว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่การดำเนินธุรกิจเพื่อให้เกิดความเติบโตและยั่งยืน
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าศึกษาธุรกิจเพื่อหาโอกาสใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นเสมอ
โดยเฉพาะธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ถือเป็น Recurring Income
ที่สร้างรายได้ และกำไรอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี โดยปัจจุบัน
บริษัทอีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นลูกที่ EPCO ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึ่งในปี 2562 คาดว่าจะมีโรงไฟฟ้าที่ขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ครบ 435.50 เมกะวัตต์ ไม่รวมโครงการต่าง ๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ และสำหรับแนวโน้มผลการดำเนินการในปีนี้
เรายังคาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นและมีนัยสำคัญเมื่อเทียบย้อนหลังในหลายปีที่ผ่านมา
โดยคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้มากกว่า 40%
ส่วนกำไรก็คาดว่าจะเติบโตแบบทวีคูณจนสามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้
กำหนดเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ในวันที่ 31
ตุลาคม 2561 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่
26 กันยายน 2561