คปภ. ยกระดับการตรวจสอบบริษัทประกันภัย ผ่าน Examination Form ป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ
นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ
ด้านกฎหมายและตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(สำนักงาน คปภ.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงาน คปภ.
ได้กำหนดทิศทางและการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ.
ในส่วนของธุรกิจประกันภัยให้มีเสถียรภาพความมั่นคง ปรับตัวได้
เท่าทันความเสี่ยงและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งหนึ่งในภารกิจของแผนงานดังกล่าว คือ
การยกระดับการตรวจสอบและการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยผ่านแบบประเมิน Examination Form สำนักงาน คปภ. จึงได้มอบหมายให้สายตรวจสอบ ซึ่งนำโดยนายโสรัจจ์
แรกสกุลชัย ผู้ช่วยเลขาธิการ สายตรวจสอบ เดินหน้าพัฒนาแบบประเมิน Examination
Form เพื่อใช้ประเมินการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการชุดย่อย และหน่วยงานกำกับภายใน (Key Control Function) ของบริษัทประกันภัย ในมิติของการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทประกันภัยที่ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายของสำนักงาน
คปภ. โดยแบบประเมินดังกล่าวถูกพัฒนาให้มีข้อคำถามที่สะท้อนถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการชุดย่อย และหน่วยงานกำกับภายใน (Key Control Function) เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทประกันภัยมีระบบการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายในที่เหมาะสม
รวมถึงดูแลให้ระบบต่างๆ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีมาตรการถ่วงดุลอำนาจ (Check and Balance) มุ่งเสริมสร้างความโปร่งใส มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี
รวมถึงมีการกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อผู้เอาประกันภัย อันนำมาซึ่งเสถียรภาพความมั่นคง ปรับตัวได้
เท่าทันความเสี่ยงและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปของบริษัทประกัน
นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ
ด้านกฎหมายและตรวจสอบ ได้กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน สายตรวจสอบ ได้พัฒนาแบบประเมิน Examination Form เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการประเมินใน 9 ส่วน
ประกอบด้วย 1) คณะกรรมการบริษัท 2) คณะกรรมการตรวจสอบ 3)
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง 4) คณะกรรมการผลิตภัณฑ์ประกันภัย 5)
คณะกรรมการลงทุนและคณะกรรมการสินเชื่อ 6) หน่วยงานตรวจสอบภายใน 7)
หน่วยงานบริหารความเสี่ยง 8) หน่วยงานคณิตศาสตร์ประกันภัย และ 9)
หน่วยงานดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยจะมีการจัดส่งแบบประเมิน Examination
Form ให้บริษัทประกันภัยจัดทำเป็นประจำทุกไตรมาส
เริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2568 เป็นต้นไป ซึ่งในไตรมาสที่ 1/2568
กำหนดระยะเวลาให้บริษัทประกันภัยจัดทำให้แล้วเสร็จและนำส่งมายังสำนักงาน
คปภ. ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 และเพื่อให้การตอบแบบประเมินมีประสิทธิภาพ
น่าเชื่อถือ เนื่องจากเป็นการให้บริษัทประกันภัยเป็นผู้ประเมินตนเอง สำนักงาน คปภ.
กำหนดให้ข้อคำถามบางข้อบริษัทต้องแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องประกอบการตอบแบบสอบถาม
นอกจากนี้ ผลการตอบแบบประเมิน Examination Form ของหน่วยงานกำกับภายในที่สำคัญของบริษัท
(Key Control Function) จะต้องให้คณะกรรมการชุดย่อยที่ดูแลหน่วยงานดังกล่าวเป็นผู้พิจารณาคำตอบและลงนามรับรองผลการตอบโดยประธานคณะกรรมการชุดย่อยนั้นๆ
สำหรับผลการตอบของคณะกรรมการชุดย่อยและคณะกรรมการบริษัท
ให้คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้พิจารณาคำตอบ ทั้งนี้ผลการตอบแบบประเมิน Examination
Form ทุกหมวดจะต้องนำเวียนให้คณะกรรมการบริษัททุกท่านพิจารณาให้ความเห็นชอบ
และลงนามรับรองการตอบโดยประธานคณะกรรมการบริษัทมายังสำนักงาน คปภ.ซึ่งสำนักงาน
คปภ. โดยสายตรวจสอบจะรวบรวมผลการตอบแบบประเมิน Examination Form มาใช้ในการประเมินความเสี่ยงของบริษัทประกันภัยร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ
ของสายตรวจสอบที่มีอยู่ในปัจจุบัน อาทิ แบบประเมินตนเองระดับองค์กร (Self-Assessment Questionnaire: SAQ) และแบบประเมินตนเองระดับกิจกรรม (Risk and Control Matrix: RCM) เพื่อนำมากำหนดมาตรการในการตรวจสอบและกำกับดูแลตามความเสี่ยงของบริษัทประกันภัยต่อไป
“ผลของการยกระดับการตรวจสอบและการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยผ่านแบบประเมิน
Examination
Form ไม่เพียงช่วยให้สำนักงาน
คปภ. มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการติดตามและตรวจสอบตามความเสี่ยง
แต่ยังช่วยให้ บริษัทประกันภัยมีเครื่องมือในการติดตามประเมินการปฏิบัติงานด้วยตนเองของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการชุดย่อย และหน่วยงานกำกับภายใน (Key Control Function) เป็นประจำทุกไตรมาส และยังเป็นโอกาสให้บริษัทพิจารณาทบทวน ผลงานรวมถึงนำไปปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการให้เกิดประโยชน์แก่บริษัทอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
รวมถึงเป็นมาตรการในเชิงป้องกัน (Preventive Measure) การปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายของบริษัท
นอกจากนี้ การยกระดับการตรวจสอบและการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยผ่านแบบประเมิน
Examination Form
จะช่วยให้อุตสาหกรรมประกันภัยมีมาตรฐานและแนวปฏิบัติในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการชุดย่อย และหน่วยงานกำกับภายใน (Key Control Function) ที่เป็นไปในทิศทางตามแนวทางสากล อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างเสถียรภาพ
และเพิ่มความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยในระยะยาว
และที่สำคัญสามารถป้องกันปัญหาของความเสี่ยงเชิงระบบ
ลดผลกระทบเชิงลบต่อการดำเนินธุรกิจที่จะนำไปสู่ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชนในอนาคต
กับทั้งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เอาประกันภัย ประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมประกันภัยด้วย”
นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ กล่าวในตอนท้าย