กฟผ. มุ่งนำนวัตกรรม เดินหน้าเปลี่ยนผ่านพลังงานไฟฟ้าสู่ความยั่งยืน
กฟผ.
ร่วมเปิดมุมมองทิศทางขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศ ผ่าน EGAT Digital
Series นำเสนอโดย Enlit Asia เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยขับเคลื่อนการผลิตไฟฟ้าของประเทศ
สร้างความมั่นคงทางพลังงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมสำหรับงาน Enlit Asia Summit and
Exhibition 2021 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 - 25 มีนาคม
2564 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการอาวุโส
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมให้สัมภาษณ์แบบออนไลน์ ในหัวข้อ
“ทิศทางของ กฟผ. ส่งมอบความเป็นเลิศด้านพลังงานและนวัตกรรม : EGAT’s Direction
– Delivering Innovation & Energy Excellence” ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศไทย (Powering Thailand’s Energy Transition :
How the Energy Transition will Support National Energy Security)”
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานในปัจจุบันเป็นการเปลี่ยนแปลงระดับโลก
ซึ่งมีปัจจัยจากทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การเพิ่มขึ้นของพลังงานหมุนเวียน
การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หรือแม้แต่สถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อความต้องการใช้พลังงาน
การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน จึงถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอาเซียน เพื่อให้ประชาชนมีปริมาณไฟฟ้าใช้ได้อย่างเพียงพอ
ในราคาที่เป็นธรรม และเชื่อถือได้ กฟผ.
ในฐานะองค์กรหลักของประเทศที่ดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้า จึงปรับกลยุทธ์นำนวัตกรรมและระบบอัจฉริยะเข้ามาใช้ในการรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้า
เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน พัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่เป็น Super Grid เพื่อให้การส่งไฟฟ้ามีเสถียรภาพและความยืดหยุ่น รองรับการซื้อขายพลังงานในระดับภูมิภาค อาทิ
โครงการนำร่องระบบกักเก็บพลังงานในระดับโครงข่ายไฟฟ้า (Grid-Scale Battery Energy Storage)
ที่สถานีไฟฟ้าแรงสูง เพื่อจัดการระบบโครงข่ายไฟฟ้าในบริเวณที่มีปริมาณพลังงานหมุนเวียนสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำของ
กฟผ. (Hydro-Floating Solar Hybrid Project)
จำนวน 16 โครงการ ในบริเวณ 9 เขื่อน รวมกำลังผลิตทั้งสิ้น 2,725 เมกะวัตต์
ศูนย์ควบคุมพลังงานหมุนเวียน (Renewable
Energy Control Center : RECC)
เพื่อจัดการและพยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
การจัดตั้งศูนย์ควบคุมการตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้า (Demand Response Control Center : DRCC) เพื่อให้สามารถทำงานและสั่งการในระยะไกลในรูปแบบโรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual
Power Plant) รวมถึงการเข้าสู่ธุรกิจนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า
และส่งเสริมการเปิดเสรีในธุรกิจก๊าซธรรมชาติของประเทศไทย ตลอดจนการแสวงหาพันธมิตรด้านเทคโนโลยี
เพื่อสร้างโอกาสพัฒนาธุรกิจใหม่จากนวัตกรรมโดยใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย อาทิ
เทคโนโลยี AI การซื้อขายแบบ Peer
to peer แบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (BESS)
นอกจากนี้ กฟผ. ยังเตรียมเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชนจากเชื้อเพลิงชีวมวล และก๊าซชีวภาพ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามที่ได้รับมอบหมาย
ด้วยความมุ่งหวังให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้ประโยชน์สูงสุดจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลกมาใช้บริหารการจัดการระบบไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
และคุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น
ทั้งนี้
ผู้ที่สนใจยังสามารถติดตามการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับศักยภาพความพร้อมการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศจากผู้บริหารระดับสูงของ กฟผ. ได้ทาง https://www.enlit.world/asia/asia-calendar/powering-thailands-energy-transition ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน - 18
ธันวาคม 63