ราช กรุ๊ป เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้า IPS กำลังผลิต 40 เมกะวัตต์ผลิตไฟฟ้าจำหน่ายลูกค้าอุตสาหกรรมในนครราชสีมา

 

นนทบุรี - บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานความก้าวหน้าการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมอาร์ อี เอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่ กำลังผลิต 40 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าประเภท Independent Power Supply ตั้งอยู่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดนครราชสีมา โครงการดังกล่าวดำเนินงานโดยบริษัท อาร์ อี เอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่ จำกัด (REN) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างราช กรุ๊ป กับบริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) (“นวนคร”) และบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (“พีอีเอ เอ็นคอม”) ถือหุ้นร้อยละ 40, 35 และ 25 ตามลำดับ โดยจะผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าในเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดนครราชสีมา และมีกำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2566 ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจะเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาภายในเดือนสิงหาคมศกนี้ ขณะเดียวกัน โครงการฯ ได้ดำเนินการเจรจาเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ โครงการยังเตรียมการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าระบบ115-22 กิโลโวลต์ (kV) ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบผลิตไฟฟ้าของโครงการฯ และระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อส่งต่อไปยังลูกค้าอุตสาหกรรมต่างๆ

 

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  โครงการโรงไฟฟ้าอาร์ อี เอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่ เป็นโครงการ IPS แรกของบริษัทฯ โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 2,176 ล้านบาท นับว่ามีความก้าวหน้าในการพัฒนาโครงการอย่างเป็นรูปธรรม เริ่มจากการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเมื่อปี 2562 และเริ่มศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเมื่อปี 2563 และกำลังจะนำเสนอ สผ. ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ โครงการยังเตรียมพร้อมสำหรับการจัดหาเครื่องจักรหลักสำหรับการผลิตไฟฟ้า โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง โดยใช้เทคโนโลยีระบบโคเจนเนอเรชั่น เพราะมีประสิทธิภาพการผลิตสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งตามแผนงานกำหนดงานก่อสร้างในปี 2565  

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าอาร์ อี เอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่เป็นโรงไฟฟ้าประเภท IPS ที่เป็นการผสานจุดแข็งของพันธมิตรร่วมทุน โดยราช กรุ๊ป เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา ก่อสร้างและดำเนินงานโรงไฟฟ้าทั้งเชื้อเพลิงฟอสซิล และพลังงานทดแทน ส่วนพีอีเอ เอ็นคอม มีความชำนาญด้านระบบส่งและระบบจำหน่ายไฟฟ้า ขณะที่กลุ่ม
นวนครเชี่ยวชาญการพัฒนาและบริหารนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลให้ลูกค้าของโครงการฯ เพิ่มขึ้นด้วย

“โครงการโรงไฟฟ้าอาร์ อี เอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่เป็นหนึ่งใน 8 โครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง รวมกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน 1,237 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในช่วงปี 2564-2567 และเสริมรายได้และความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น บริษัทฯ ยังหมายมั่นว่าโครงการโรงไฟฟ้าอาร์ อี เอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่จะเป็น IPS นำร่องที่จะขยายผลไปยังนิคมอุตสาหกรรมแห่งอื่นๆ ในอนาคต เพื่อช่วยให้การพัฒนาเศรษฐกิจตามแผนยุทธศาสตร์ชาติขับเคลื่อนเดินหน้าได้ต่อเนื่องด้วย ” นายกิจจา กล่าวปิดท้าย 

 

 

Visitors: 11,025,271