ราช กรุ๊ป ส่งต่อภารกิจเป้าหมายกำลังผลิต 10,000 เมกะวัตต์ให้ชูศรี เกียรติขจรกุล ซีอีโอคนใหม่

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  ส่งมอบตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทฯ โดยนางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล ได้เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ คนที่ 7 และเป็นผู้นำสุภาพสตรีคนแรกขององค์กร ที่จะเข้ามาสานต่อภารกิจสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร เสริมสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร และพัฒนายกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ต่อจากนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ ที่จะเกษียณอายุการทำงานในวันที่ 30 กันยายน ศกนี้

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนยุทธศาสตร์ปี 2568 วางเป้าหมายกำลังการผลิตไว้ที่ 10,000 เมกะวัตต์  ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ราช กรุ๊ป มีการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มกำลังการผลิต ทำให้บริษัทฯ มีรายได้และสถานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง รวมทั้งสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่องด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้กระจายการลงทุนไปยังโครงการระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและธุรกิจอื่นที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในระยะยาว โดยกำหนดเป้าหมายไว้ปีละ 5% ของงบลงทุน อีกทั้งยังสามารถสร้างฐานธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลไกทำให้การขยายและต่อยอดการลงทุนมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ได้แก่ สปป.ลาว ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และเวียดนามเป็นประเทศล่าสุด

 

“ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถลงทุนกำลังการผลิตเพิ่มได้กว่า 2,000 เมกะวัตต์ จนมาอยู่ที่ 8,292 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าไพตันที่อยู่ระหว่างดำเนินการนำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นให้ความเห็นชอบ หากประสบความสำเร็จบริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 900 เมกะวัตต์  ส่วนมูลค่ากิจการอยู่ที่ประมาณ 120,000 ล้านบาท ซึ่งรูปแบบการลงทุนในกิจการที่ดำเนินงานแล้วจะช่วยผลักดันมูลค่ากิจการเพิ่มได้ดียิ่งขึ้น  ผมมั่นใจว่า ประสบการณ์ของคุณชูศรีกว่า 30 ปี ด้านบริหารการเงินการลงทุนจะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้การขับเคลื่อนเป้าหมายการลงทุนและมูลค่ากิจการของบริษัทฯ ดียิ่งขึ้น” นายกิจจา กล่าว

 

ด้านนางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 1 ตุลาคม ศกนี้ กล่าวยืนยันที่จะสานต่อภารกิจสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของราช กรุ๊ป ด้วยการแสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและขีดความสามารถบริษัทฯ ในการขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนายกระดับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาลให้ทัดเทียมมาตรฐานสากลยิ่งขึ้น

“การบริหารและวางแผนการเงินเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการลงทุน เพื่อให้เป้าหมายกำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ และมูลค่ากิจการ 200,000 ล้านบาท บรรลุผลสำเร็จ ดิฉันจะนำความรู้และประสบการณ์เข้ามาเสริมในการบริหารการลงทุนการเงิน ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการประสิทธิภาพการใช้งบลงทุน การจัดหาแหล่งเงินทุนหรือเครื่องมือทางการเงินที่มีต้นทุนสมเหตุสมผลและเหมาะกับลักษณะของโครงการสำหรับรองรับการลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า  ตลอดจนการบริหารจัดการผลตอบแทนหรือรายได้ของกิจการที่ลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่ากระแสเงินสดของบริษัทมีความมั่นคงและแข็งแกร่ง

ในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ของราช กรุ๊ป ดิฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมากกว่า 30 ปี ทั้งในด้านการบริหารการเงิน และการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและพลังงาน จะสามารถช่วยขับเคลื่อนภารกิจ 3 ประการของราช กรุ๊ป ให้ก้าวหน้าและบรรลุเป้าหมาย” นางสาวชูศรี กล่าว

บมจ. ราช กรุ๊ป ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2543  มีทุนจดทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 14,500 ล้านบาท มีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วนร้อยละ 45 บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในลักษณะของบริษัทโฮลดิ้ง โดยลงทุนถือหุ้นผ่านบริษัทย่อย และบริษัทร่วมทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การลงทุนมุ่งเน้นธุรกิจผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก และขยายการลงทุนสู่ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฟฟ้าและพลังงาน และธุรกิจบริการสุขภาพด้วย ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการลงทุนโครงการในประเทศไทย สปป.ลาว ออสเตรเลีย จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม  ซึ่งประเทศไทยถือเป็นฐานประกอบธุรกิจหลัก

 

 

 

Visitors: 11,025,271