กฟผ. พุ่งเป้าลดใช้พลังงานในสำนักงานลงร้อยละ 20 ช่วยชาติฝ่าวิกฤตพลังงาน

 

กฟผ. ขานรับนโยบายภาครัฐใช้พลังงานลดลงร้อยละ 20 ผ่านมาตรการลดการใช้พลังงานในสำนักงาน กฟผ. ทั่วประเทศ พร้อมชวนคนไทยลดใช้พลังงานผ่านแคมเปญ “Save Energy for ALL ร่วมใจประหยัดพลังงาน ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน”

 

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาพลังงานที่มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้พลังงานทั่วประเทศและทั่วโลก กฟผ. ขานรับมาตรการลดการใช้พลังงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 โดยมุ่งเป้าลดการใช้พลังงานในสำนักงานลงร้อยละ 20 ด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น การบริหารจัดการควบคุมระบบแสงสว่างในอาคารโดยการตั้งเวลา (Timer) และติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Sensor) กำหนดเวลาปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงพักกลางวันและก่อนเวลาเลิกงานอย่างน้อย 30 - 60 นาที รวมถึงปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้สูงขึ้น 26 - 27 องศาเซลเซียส พร้อมรณรงค์ให้พนักงาน กฟผ. สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีแทนการสวมเสื้อสูท

นอกจากนี้ กฟผ. ได้นำระบบสื่อสารออนไลน์และระบบงานดิจิทัลเข้ามาช่วยในการทำงานเพื่อประหยัดพลังงานมากขึ้น อาทิ ระบบประชุมออนไลน์ (Online Meeting) ระบบบริหารจัดการข้อมูลองค์กร (Enterprise Content Management :ECM) เปลี่ยนเครื่องพิมพ์แบบเครือข่าย (Network Printer) เพื่อสามารถใช้งานร่วมกันและลดจำนวนเครื่องพิมพ์ เปลี่ยนการส่งข้อมูลเป็นแบบดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมการใช้น้ำอย่างประหยัด ตรวจสอบจุดรั่วไหลของระบบน้ำในอาคารเพื่อลดการสูญเสียน้ำ เป็นต้น

         ทั้งนี้ ประชาชนก็สามารถประหยัดพลังงานด้วยตนเองง่าย ๆ เพียงปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า เช่น เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ปิดสวิตซ์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทันทีเมื่อเลิกใช้งาน เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของห้อง ในขณะเดียวกัน กฟผ. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการลดใช้พลังงานของประเทศ และชวนคนไทยลดใช้พลังงานด้วยแคมเปญ “Save Energy for ALL ร่วมใจประหยัดพลังงาน ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน” กับ 2 กิจกรรม ล้างแอร์ฟรีช่วยชาติ และ ส่วนลดเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง www.egat.co.th ภายใต้สถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การประหยัดพลังงานเป็นเครื่องมือสำคัญในการเผชิญกับวิกฤตนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยกัน 

Visitors: 11,025,013