กฟผ. โชว์ 3 Smart สุดล้ำ ในงาน Thailand Smart City Expo 2022

 

 

กฟผ. โชว์เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะสุดล้ำ ในงาน Thailand Smart City Expo 2022 เดินหน้าสนับสนุนความยั่งยืน ด้านพลังงานไฟฟ้า ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมร่วมดันไทยก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ ตอบโจทย์ Carbon Neutrality และ Net Zero Emission

วานนี้ (30 พฤศจิกายน 2565) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Thailand Smart City Expo 2022 งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีระดับนานาชาติเมืองอัจฉริยะ โดยมี นายสุทธิพงษ์ เฉลิมเกียรติ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมเปิดงานพร้อมร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะภายใต้หัวข้อ “EGAT Smart Energy for ALL” ณ ฮอลล์ 3 - 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

นายสุทธิพงษ์ เฉลิมเกียรติ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ให้ความสำคัญในการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ อาทิ การใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นพลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้า การพัฒนาและนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการด้านพลังงาน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้สอดรับกับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของประชาชนในยุคปัจจุบัน รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย พร้อมมุ่งสร้างชุมชนสู่ความยั่งยืนด้วยหลักคิด EGAT Smart Energy For All

สำหรับงานThailand Smart City Expo 2022 กฟผ. ได้ร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะภายใต้หัวข้อ “EGAT Smart Energy for ALL” ประกอบด้วย

1) Smart City: โครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่ (Mae Moh Smart City) โดยพัฒนาต้นแบบโครงการ Smart City แห่งแรกที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งได้รับมอบตราสัญลักษณ์เพื่อรับรองการเป็นพื้นที่พัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 จากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ ด้วยการพลิกโฉมให้เป็นเมืองน่าอยู่เชิงนิเวศ และเมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำเหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมและขับเคลื่อนด้วยชุมชนเอง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว ภายหลังจากการปิดเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าแม่เมาะในปี พ.ศ. 2594

2) Smart Grid: โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน การพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าดั้งเดิมให้เป็นระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและพลังงานสะอาดมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชน และส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวสีเขียวที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนแก้ปัญหาไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับของ จ.แม่ฮ่องสอน

และ 3) Smart Energy: ธุรกิจและนวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศสู่ยุคดิจิทัลเป้าหมาย Carbon Neutrality การพัฒนาสู่ธุรกิจสู่บริการด้านพลังงานอย่างครบวงจร (Energy Solutions Provider) เพื่อรักษาความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศด้วยการผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้ไฟทุกกลุ่ม ผ่านบริการระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ (EGAT Smart Energy Solutions) เช่น การติดตามการใช้พลังงานแบบ Real Time การนำระบบ AI มาควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า บริการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน เป็นต้น

 

นอกจากนั้น ยังได้จัดแสดง EGAT EV Business Solution การให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ที่ชาร์จไฟได้รวดเร็ว ปลอดภัย รองรับทุกการเดินทางของผู้ใช้ยานยนต์ทั่วประเทศ โดยร่วมลงทุนและสร้างความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรต่าง ๆ แล้ว 87 สถานี และตั้งเป้าที่จะขยายสถานีให้มีจำนวนรวมมากกว่า 100 สถานีภายในปี 2565 พร้อมทั้งพัฒนา Mobile Application EleXA ตู้อัดประจุไฟฟ้า EGAT Wallbox และ EGAT DC Quick Charger รวมถึงระบบบริหารจัดการเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า BackEN ที่จะเชื่อมโยงระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ทั้งระบบผลิตและส่งไฟฟ้า สถานีอัดประจุไฟฟ้า ยานยนต์ไฟฟ้า และผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ในโอกาสนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะฯ ได้เดินเยี่ยมชมบูท กฟผ. ด้วย

 

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าชมงานThailand Smart City Expo 2022 ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ณ ฮอลล์ 3 - 4ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยสามารถลงทะเบียนเข้าชมล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ http://thailandsmartcityexpo.com

Visitors: 11,025,221