กกพ. เปิดรับซื้อ Solar เพื่อ กลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร 1 มิถุนายน นี้
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก
โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา
สำหรับกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทสูบน้ำเพื่อการเกษตร
(โครงการนำร่อง) พ.ศ. 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 โดยมีเป้าหมายการรับซื้อจำนวน
50 เมกะวัตต์ โดยมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี 2564
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
(สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกของ กกพ. เปิดเผยว่า
ตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายแผน
PDP2018 rev.1 โดยให้ขยายผลไปยังกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา
โรงพยาบาล และสูบน้ำการเกษตร (โครงการนำร่อง) เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง
ส่วนที่เหลือใช้สามารถขายเข้าสู่ระบบได้
กกพ. จึงได้ออกประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา
สำหรับกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร (โครงการนำร่อง)
พ.ศ. 2564 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ระเบียบ กกพ.
ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา
สำหรับกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร (โครงการนำร่อง)
พ.ศ. 2564 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม
2564
“กกพ.
ได้ออกประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าภายใต้โครงการโซลาร์ สำหรับกลุ่มโรงเรียน
สถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร (โครงการนำร่อง) ครั้งนี้ มีปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น
50 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น พื้นที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำนวน 12 เมกะวัตต์
ประกอบไปด้วย โรงเรียน สถานศึกษา รวม 6 เมกะวัตต์ และโรงพยาบาล 6 เมกกะวัตต์
พื้นที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 38 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วย โรงเรียน สถานศึกษา
รวม 14 เมกะวัตต์ โรงพยาบาล 14 เมกะวัตต์ และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทสูบน้ำเพื่อการเกษตร
10 เมกะวัตต์ โดยใช้ราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบในอัตรา 1.00
บาทต่อหน่วย (กิโลวัตต์ชั่วโมง) ซึ่งมีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าไม่เกิน 10 ปี และมีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์
(SCOD) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564” นายคมกฤช กล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจเข้ร่วมโครงการดังกล่าว
สามารถยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟภ. และ กฟน.) ผ่านเว็บไซต์ กฟภ.
(https://ppim.pea.co.th/)
และ กฟน. (https://spv.mea.or.th) เพื่อพิจารณาตรวจสอบคำเสนอขายไฟฟ้า
โดยเรียงลำดับก่อนหลังตามความพร้อม (First come First served) และให้ดำเนินโครงการภายในกรอบระยะเวลา
ดังนี้
ขั้นตอน |
กำหนดระยะเวลา |
กิจกรรม |
1. |
ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 64 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 64 |
การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเปิดและปิดรับคำเสนอขอขายไฟฟ้า |
2. |
ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 64 |
การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือก
และทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า |
นายคมกฤช กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการนำร่อง
โดยขยายผลจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์โซลาร์ภาคประชาชน ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์
เป็นกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทสูบน้ำเพื่อการเกษตร
ขนาดไม่เกิน 200 กิโลวัตต์ โดยที่สำนักงาน กกพ.
จะรวบรวมข้อมูลความสนใจของกลุ่มต่างๆ
รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ เพื่อปรับปรุงแนวทางการสนับสนุนการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสดงอาทิตย์ต่อไป