“สามย่าน โค-ออป” ผนึก “ธนาคารกสิกรไทย” สานต่อโคเลิร์นนิ่งสเปซ แบ่งปันพื้นที่เพื่อการเรียนรู้ ในสามย่านมิตรทาวน์ตอบแทนสังคมด้วยบริการพื้นที่ฟรีให้แก่สมาชิกกว่า 600,000 คนต่อปี สร้างคุณค่า 5 มิติการันตีด้วยเกณฑ์ SROI
“สามย่าน โค-ออป (Samyan CO-OP)” ร่วมกับพันธมิตร
ธนาคารกสิกรไทย และ สมาคมผู้ประเมินมูลค่าทางสังคมไทย เปิดเผยความสำเร็จของสามย่าน โค-ออป พื้นที่แห่งการแบ่งปันเพื่อการเรียนรู้ของทุกคน
พร้อมยืนหยัดให้บริการพื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน โดยมีธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้สนับสนุนตลอดการดำเนินการกว่า
3 ปี ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ (ข้อมูล ณ 31
พ.ค. 2565) ได้แก่
· ผู้ใช้บริการลงทะเบียนใช้พื้นที่รวมกว่า
120,000 คน แบ่งเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา 60% และเป็นบุคคลทั่วไป
40%
· ผู้ใช้บริการเฉลี่ยต่อเดือนกว่า 50,000 คน (ช่วงเวลาปกติที่ไม่ต้องปิดให้บริการจากการแพร่ระบาดของโควิด-19)
· จัดงานเวิร์คช็อป ติวเข้มด้านวิชาการ
เทรนนิ่งด้านวิชาชีพ มากกว่า 250
งาน และมีผู้เข้าร่วมรวมกว่า 12,000 คน
· เกิดชุมชน (Community) ของบุคคล
องค์กร หรือหน่วยงานที่ต้องการทำประโยชน์เพื่อสังคมที่แข็งแรง
ในด้านการตอบแทนคืนสู่สังคม
สามย่าน โค-ออป ได้เข้าร่วมการประเมินผลตอบแทนทางสังคม (Social Return on Investment: SROI) ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมผู้ประเมินมูลค่าทางสังคมไทย (Social Value
Thailand Association) องค์กรระดับสากลที่ทำหน้าที่สนับสนุนการสร้างคุณค่าสังคมผ่านการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในประเทศไทย
ตามกรอบมาตรฐานดัชนีชี้วัดทางสังคม (ESG Index) ซึ่งครอบคลุมในด้านสังคม
สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ โดยสมาคมผู้ประเมินมูลค่าทางสังคมไทยได้ประเมินสามย่าน
โค-ออปไว้ว่าทุกการลงทุน 1 บาทในสามย่านโค-ออป จะก่อให้เกิดผลตอบแทนทางสังคม 3.5
บาท สามารถแบ่งออกเป็นผลตอบแทนด้านสังคมที่สำคัญ 5 มิติ ดังนี้
· คุณค่าทางสังคมต่อผู้ใช้บริการ
(User Value)
ผู้ใช้บริการสามย่าน โค-ออป มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีความมุ่งมั่นตั้งใจเพิ่มมากขึ้น
มีความสะดวกในการนัดพบ มีประสิทธิภาพในการนัดพบ มีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น
มีพื้นที่ทางสังคม และสุขภาพจิตดีขึ้น
· คุณค่าทางสังคมต่อชุมชน
(Community Value)
สร้างคุณค่าในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนรอบข้างด้วยการเพิ่มพื้นที่ความสะดวกสบาย
และปลอดภัยที่เข้าถึงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับคนทุกวัยและพัฒนาให้เป็นชุมชนเพื่อการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง
· คุณค่าทางสังคมต่อพันธมิตรทางธุรกิจ
(Business Partner Value)
ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจและผู้ใช้บริการ
รวมถึงทำให้เข้าใจพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าผ่านแอปพลิเคชั่นของสามย่าน โค-ออป
ทำให้แบรนด์ของพันธมิตรเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
· คุณค่าทางสังคมต่อพันธมิตรคอนเทนต์
(Content Partner Value)
สามารถจัดงานเทรนนิ่ง เวิร์คช็อป
และทอล์ค ได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย มีสถานที่ที่เปิดกว้างโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
เพิ่มโอกาสในการจัดกิจกรรมและเผยแพร่เนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์กับผู้เข้าร่วม
· คุณค่าทางสังคมต่อสามย่าน
โค-ออป (Space Value)
สร้างคุณค่าการรับรู้แบรนด์สามย่าน โค-ออป ผ่านการสื่อสาร และกิจกรรม โดยขยายฐานผู้ใช้บริการไปยังชุมชนที่หลากหลายมากขึ้น
ช่วยให้เกิดความยั่งยืนทางธุรกิจ
ปิยะวัลย์ สร้อยน้อย ผู้อำนวยการ สามย่านโค-ออป
ภายใต้การบริหารของ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล
(ประเทศไทย) กล่าวว่า “สามย่าน โค-ออป
เชื่อว่าการมีพื้นที่โคเลิร์นนิ่งสเปซ จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการแบ่งปันความรู้
และยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ใช้บริการตั้งแต่เยาวชนตลอดจนคนวัยทำงาน
โดยยังได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์และแนวคิดในเรื่องการตอบแทนสู่สังคมสอดคล้องกับกลุ่มเฟรเซอร์ส
พร็อพเพอร์ตี้ ทำให้โคเลิร์นนิ่งสเปซแห่งนี้ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมการประเมินผลตอบแทนทางสังคม
(Social Return on Investment: SROI) ที่จัดโดยสมาคมผู้ประเมินมูลค่าทางสังคมไทย
(Social Value Thailand Association)
ตอกย้ำถึงวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งและผลักดันพื้นที่สามย่าน โค – ออป
ให้เป็นสเปซเพื่อการเรียนรู้อย่างยั่งยืนของทุกคนในชุมชน”
ฐิติภร
สิริศรีสกุลชัย ผู้อำนวยการอาวุโส Business Solution Integration
Chapter ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือกับศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ในการสนับสนุนสามย่าน
โค-ออป
เป็นความมุ่งมั่นของธนาคารที่ต้องการมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์และเรียนรู้ในโลกยุคดิจิทัล
โดยการผลักดันให้เกิดพื้นที่สาธารณะ (Public
Space) สำหรับทุกๆ คนให้ได้มาเรียนรู้ ทำกิจกรรมต่อยอด
แลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิด การเรียนรู้ที่หลากหลาย ทำให้สามย่าน โค-ออป
เป็นสถานที่พบปะ เรียนรู้ที่ครบวงจรแห่งใหม่ใจกลางเมือง
ตอบรับกับโจทย์ทักษะแห่งโลกอนาคตที่ต้องมี ซึ่งสามารถใช้ในโลกของการเรียน การทำงาน
และการใช้ชีวิต เช่น ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์
ทักษะด้านเทคโนโลยี เป็นต้น”
ในด้านการสร้างผลตอบแทนต่อสังคม
สกุลทิพย์ กีรติพันธวงศ์ เลขาธิการ
สมาคมผู้ประเมินมูลค่าทางสังคมไทย
กล่าวว่า “ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับการวัดคุณค่าทางสังคม
ด้วยการประเมินผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน (Social Return on Investment:
SROI) เพื่อส่งเสริมกระตุ้นให้เกิดการดำเนินงาน กิจกรรม
เม็ดเงินการลงทุนที่ไม่เพียงสะท้อนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ
แต่ยังประโยชน์และคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยสำหรับประเทศไทย
นับเป็นช่วงเริ่มต้นในการสร้างความตระหนัก ความรู้ความเข้าใจต่อหน่วยงานทั้งภาครัฐ
ภาคเอกชน ภาคสังคมในการนำเครื่องมือและกรอบแนวคิดมาสู่การพัฒนายกระดับ Impact
Performance ขององค์กรต่อสังคม
สมาคมฯเชื่อว่าการริเริ่มของสามย่านโค-ออป
จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจและการนำไปสู่การขยายผลสัมฤทธิ์วงกว้างในสังคมไทยต่อไป”