สกพอ. สานความร่วมมือกับ JETROดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนในพื้นที่ EEC
กระทรวงเศรษฐกิจ
การค้า และอุตสาหกรรม ญี่ปุ่น หนุน เจโทร – สกพอ. ลงนามความร่วมมือ
ดึงดูดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงกลุ่มสุขภาพ กลุ่มดิจิทัล
กลุ่มการลงทุนคาร์บอนต่ำ และกลุ่มโลจิสติกส์ เข้ามาลงทุนใน อีอีซี การปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์
สอดคล้องนโยบาย BCG
โมเดลของไทย
นายฮากิอูดะ โคอิจิ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (เมติ) ประเทศญี่ปุ่น
ได้เข้าหารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ในประเด็นการขยายความร่วมมือในการผลักดันให้อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงของญึ่ปุ่นเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(อีอีซี)
ทั้งนี้
เพื่อให้ความร่วมมือดังกล่าวเกิดผลเป็นรูปธรรม และเดินหน้าได้อย่างเต็มที่
จึงมีความเห็นร่วมกันให้ทั้ง 2 ฝ่าย ลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงระหว่าง
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)
และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) โดยนายคณิศ
แสงสุพรณ เลขาธิการ สกพอ. และ นายทาเคทานิ อัทสึชิ ประธานเจโทร สำนักงานประจำกรุงเทพฯ
เป็นผู้ลงนาม เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565
โดยทั้ง 2 ฝ่าย
เห็นพ้องในการผลักดันให้ภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนในพื้นที่อีอีซีที่เน้นด้านเทคโนโลยีขั้นสูง
การต่อยอดด้านการวิจัยและพัฒนาร่วมกันชักจูงการลงทุนใหม่จากภาคเอกชนญี่ปุ่นในพื้นที่อีอีซี
ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มสุขภาพ กลุ่มดิจิทัล
กลุ่มการลงทุนคาร์บอนต่ำ และกลุ่มโลจิสติกส์
โดยการส่งเสริมการลงทุนจะเน้นความสำคัญของการดำเนินนโยบายและเป้าหมายของทั้งสองประเทศ
ที่เน้นการเพิ่มความสำคัญด้านห่วงโซ่การผลิต
และการมุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 และ BCG โมเดล
(เศรษฐกิจชีวภาพ Bioeconomy เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular
Economy เศรษฐกิจสีเขียว Green Economy)
นอกจากนี้ จากการหารือร่วมกัน
ประเทศญี่ปุ่นเตรียมผลักดัน แนวคิด “Asia-Japan Investing for the Future Initiative”
หรือ AJIF ที่เน้นการขยายการเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจและการลงทุนกับภาคเอกชนในภูมิภาคอาเซียน
เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง
และการพัฒนานวัตกรรมรวมทั้งการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างพลังงานใหม่เพื่อมุ่งสู่การปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์
เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่น
ในขณะที่ฝ่ายไทยตอบรับนโยบายดังกล่าว
ด้วยมีความสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ BCG โมเดลของรัฐบาล
ที่ต้องการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย
รวมทั้งยังได้เน้นย้ำว่าประเทศไทยยังคงมีนโยบายในการรักษาฐานการผลิตยานยนต์ที่เข้มแข็งและมีศักยภาพ
ไม่ว่าจะเป็นตลาดยานยนต์ไฟฟ้าหรืออุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เกี่ยวข้อง
และนโยบายการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าของไทย
จะช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านและการเติบโตให้กับภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในประเทศไทยได้ยิ่งไปกว่านั้น
การหารือครั้งนี้ ประเทศไทยและญี่ปุ่น ยังได้เห็นพ้องกันในขยายความร่วมมือในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นการใช้พลังงานสะอาด
ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
และขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน
รวมถึงเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานอัจฉริยะแห่งอนาคตอีกด้วย