ชาวไร่และสหภาพแรงงานยาสูบ ลั่น มิ.ย. นี้รัฐบาลต้องสรุปทางออกนโยบายขึ้นภาษีบุหรี่ 40% เล็งจับมือ ส.ส. พื้นที่ยาสูบ พร้อมเดินทางเข้ากรุงเทพหลังเปิดสภาฯ
ภาคีชาวไร่ยาสูบและสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบประสานเสียง
ขีดเส้นตาย
เร่งรัฐบาลสรุปทางออกปัญหาความเดือดร้อนของอุตสาหกรรมยาสูบจากนโยบายขึ้นภาษีบุหรี่
40% ภายในเดือนมิถุนายนนี้
พร้อมประสานบรรดา ส.ส.จากพื้นที่ปลูกยาสูบทั่วประเทศ
ให้ช่วยการผนึกกำลังช่วยเกษตรกรโดยด่วน
พร้อมเดินทางเข้าสภาและกระทรวงการคลังยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าจากรัฐบาลหลังเปิดสภาฯ
นายสุธี ชวชาติ
ประธานภาคีชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย
เปิดเผยภายหลังจากนำคณะตัวแทนชาวไร่ยาสูบเข้าพบผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศว่า “ชาวไร่ยาสูบต้องการความชัดเจนถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลจากมาตรการภาษีสุดโต่งที่กระทบชาวไร่ยาสูบมากว่า
2 ปีแล้ว ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงไม่เกิน 3 เดือน
ก็จะถึงเวลาที่การยาสูบแห่งประเทศไทยจะสรุปโควตารับซื้อใบยาของปีหน้า (2564)
ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอัตราภาษีบุหรี่ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ว่าจะเป็นอย่างไร ชาวไร่ยาสูบจึงร้อนใจกันมากและไม่อาจนั่งรออยู่เฉยๆ ได้
เพราะยังไม่รู้ชะตากรรมว่าอาชีพจะล่มสลายหรือไม่ ถ้าในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ กรมสรรพสามิตขึ้นภาษีบุหรี่เป็นอัตราเดียวที่ 40% เชื่อว่าอาชีพยาสูบคงหมดไปแน่ๆ รายได้ที่เคยมีจากการปลูกยาสูบไร่ละ 1
หมื่นบาทต่อปีจะหายไป กระทบต่อเม็ดเงินหมุนเวียน 500-600 ล้านบาทในแต่ละจังหวัดที่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจชุมชน
ผลกระทบจะเกิดขึ้นในวงกว้างไปทั่วจังหวัด โดยเฉพาะในจังหวัดยาสูบ 22 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ปลูกยาสูบหลักของประเทศ และยังทำให้เราสูญเสียความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่ทิ้งชาวไร่ยาสูบไว้ข้างหลังอีกด้วย
ด้านนายสงกรานต์ ภักดีจิตร
นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวเสริมว่า “ในช่วงเศรษฐกิจที่ซบเซาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
แบบนี้ รัฐบาลและ ส.ส.
ควรต้องเน้นที่การกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจท้องถิ่นเข้มแข็ง
มีเงินทองหมุนเวียนโดยต้องไม่ตัดทางหารายได้ของประชาชน
เพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศกลับคึกคักเหมือนเดิม มิใช่มาขูดรีดจากประชาชน
พวกเราชาวไร่ยาสูบขอวิงวอนให้รัฐบาลเร่งหาข้อสรุปแก้ปัญหาจากนโยบายภาษีบุหรี่ภายในเดือน
มิ.ย. นี้ โดยขอให้ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีรอบต่อไปเป็น 40% อัตราเดียวออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด
และเร่งจ่ายเงินชดเชยที่ชาวไร่ถูกตัดโควตาของปีนี้ไป ซึ่งจะใช้เงินงบประมาณไม่เกิน
160 ล้านบาท เป็นเพียงเศษเสี้ยวของงบประมาณที่รัฐบาลเพิ่มอนุมัติช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มอื่นไป
ทั้งชาวไร่อ้อย ชาวสวนยาง ชาวไร่ข้าวโพด เราผิดหวังมากที่แม้ว่าส.ส.
ในหลายพื้นที่พยายามช่วยเหลือเป็นปากเสียงแทนพวกเรา
แต่ก็ยังไม่เห็นรัฐบาลหรือกระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตจะช่วยเหลือชาวไร่อย่างเรา
แต่สามารถอุ้มสายการบินใช้เงินเป็นหมื่นล้านได้ เราจึงเตรียมตัวเดินทางไปสภาฯ
และกระทรวงการคลังเพื่อยื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าอย่างเร่งด่วน”
ในวันเดียวกัน นายสุเทพ ทิมศิลป์
ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบเปิดเผยว่า สหภาพฯ
กำลังเร่งจัดเตรียมแนวทางเสนอผู้บริหารเพื่อให้การยาสูบฯ สามารถอยู่รอดต่อไปได้
และสามารถขยายกิจการให้เติบโตและแข่งขันได้เพื่อสร้างรายได้ให้รัฐและสร้างอาชีพให้กับพนักงานและลูกจ้างการยาสูบฯ
กว่า 3 พันชีวิต “หนึ่งในมาตรการที่สหภาพฯ
เห็นว่าจำเป็นและเร่งด่วนเพื่อความอยู่รอดของการยาสูบฯ
และพี่น้องพนักงานรวมทั้งชาวไร่ยาสูบในสังกัด คือต้องเลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ 40%
ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด
เพราะเศรษฐกิจแบบนี้ถ้าขึ้นภาษีก็ยิ่งเท่ากับผลักให้คนสูบไปซื้อบุหรี่หนีภาษีกันมากขึ้น
และกลายเป็นสูบหนักกว่าเดิมเพราะบุหรี่หนีภาษีราคาซองละ 20-30 บาท แต่บุหรี่เสียภาษีจะราคาซองละ 80-90 บาท
มันอยู่กันไม่ได้ ทุกฝ่ายต้องหันหน้ามาคุยกัน
เร่งหาทางออกและดำเนินการทันทีให้เป็นรูปธรรม”