“ไทยประกันชีวิต” ยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคม สู่การสร้างคุณค่าร่วมระหว่างสังคมและบริษัทฯ

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อให้การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR ของบริษัทฯ เป็นไปอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงยกระดับการดำเนินงานด้าน CSR สู่การสร้างคุณค่าร่วม หรือ Creating Shared Value (CSV) โดยการพัฒนา Business Model ให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างสังคมและบริษัทฯ สามารถเติมเต็มความต้องการของ Stakeholder ในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น คู่ค้า และสังคม

                ขณะเดียวกัน ได้ร่วมกับสถาบันไทยพัฒน์จัดทำ Road Map เป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals : SDGs เพื่อให้ทิศทางการดำเนินงานที่มีผลต่อสังคมของบริษัทฯ มีเป้าหมายที่ชัดเจน รวมถึงเกิดการสร้าง Share Value ระหว่างบริษัทฯ และคนในสังคม โดยพิจารณาจากมาตรฐานความยั่งยืนของธุรกิจประกันภัยในระดับสากล ซึ่งสามารถกำหนดยุทธศาสตร์ออกเป็น 3 ยุทธศาสตร์หลัก ประกอบด้วย

ยุทธศาสตร์การยึดมั่นคำสัญญา (Promise) มุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในระดับสากล ที่เป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต และสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ทุกชีวิต รวมถึงมุ่งสร้างบุคลากรให้เป็นคนเก่งและคนดี พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ เพื่อเป็นคู่คิดที่อยู่เคียงข้างลูกค้าและสังคม ด้วยการบริหารจัดการองค์กรอย่างมืออาชีพ บนพื้นฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance) ซึ่งตอบเป้าหมาย SDGs ในด้านความยากจน ผ่านการมอบผลตอบแทนและสวัสดิการที่เป็นธรรมแก่บุคลากร ด้านสุขภาวะ จัดให้มีอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ด้านความเท่าเทียมทางเพศ ด้านเศรษฐกิจและการจ้างงาน

ยุทธศาสตร์การคุ้มครองป้องกัน (Protect) ภายใต้แนวคิดเชื่อมั่นต่อการมีส่วนร่วม และมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงใจ และเพิ่มคุณค่าให้กับทุกช่วงเวลาของชีวิต พร้อมตอบสนองและเข้าถึงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มุ่งสร้างสรรค์พัฒนาระบบและกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ก้าวข้ามทุกข้อจำกัดและรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ยุทธศาสตร์นี้ตอบเป้าหมาย SDGs ด้านขจัดความยากจน ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้มีรายได้น้อย ด้านสุขภาวะ เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ ด้านความเท่าเทียมทางเพศ

                ยุทธศาสตร์การสร้างความรุ่งเรือง (Prosper) มุ่งมั่นเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีจิตอาสา ด้วยการริเริ่ม สนับสนุนบุคลากรให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อน SDGs โดยตอบเป้าหมายด้านขจัดความยากจน ด้านขจัดความหิวโหย ด้านสุขภาวะ ด้านความเท่าเทียมทางเพศ ด้านเศรษฐกิจและการจ้างงาน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ

การดำเนินงานทั้ง 3 ยุทธศาสตร์ ไทยประกันชีวิตมุ่งยกระดับการดำเนินงานสู่ความเป็นเลิศด้านความยั่งยืน ที่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมในองค์กร ตลอดจนบริหารจัดการชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของธุรกิจประกันภัย โดยสามารถจำแนกการดำเนินงานเพื่อตอบเป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืนออกเป็น 8 แผนงาน รวม 40 ประเด็น ซึ่งอยู่ทั้งในกระบวนการดำเนินธุรกิจ (In Process) และภายหลังกระบวนการดำเนินธุรกิจ (After Process) อาทิ แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนและสังคม แผนส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสุขภาพ แผนเผยแพร่ความรู้ด้านสาธารณาสุขมูลฐาน แผนสนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ประสบภัยพิบัติและผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น ทั้งนี้ การดำเนินงาน CRS after Process ยังตอบเป้าหมาย SDGs ด้านขจัดความยากจน ด้านสุขภาวะ และด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ

                นอกจากนี้ ไทยประกันชีวิตยังดำเนินนโยบายการลงทุน ในลักษณะ ESG Investing : Environment, Social and Corporate Governance ซึ่งเป็นการลงทุนในตราสารทุนที่พิจารณาจากปัจจัย 3R ของบริษัท ได้แก่ ความเสี่ยง (Risk) ผลตอบแทน (Return) และผลกระทบที่บริษัทนั้นๆ มีต่อการพัฒนาสังคมหรือสิ่งแวดล้อม (Real Impact) หรือความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การลงทุนในลักษณะนี้จะได้ผลตอบแทนค่อนข้างดีและมีความยั่งยืน เนื่องจากเป็นการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนหรือองค์กรที่ได้ผ่านการคัดสรรแล้วว่าดำเนินธุรกิจบนหลักธรรมาภิบาล

                “ไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรก ที่จัดทำแผนแม่บทความรับผิดชอบต่อสังคมเชิงกลยุทธ์ โดยแบ่งกลยุทธ์ออกเป็น 3 ด้าน คือ การให้ การดูแล และการเติมเต็มคุณค่า และยกระดับสู่การสร้างคุณค่าร่วม เพื่อแก้ไขและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ควบคู่กับการก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันในธุรกิจ ขณะเดียวกันยังต้องสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นทั้งกับสังคมและบริษัทฯ” นายไชยกล่าว

         

Visitors: 11,025,094