“นีโอ” เตรียมจัดงาน Gift Fest 2018 เทศกาลของขวัญของแต่งบ้าน หวังกระตุ้นกำลังซื้อโค้งสุดท้ายปี 61 สมาคมของขวัญฯ ชี้ตลาดยังคึกคัก แม้ไร้มาตรการรัฐหนุน

บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ เตรียมจัดงาน Gift Fest 2018เทศกาลของขวัญของแต่งบ้าน ครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี พร้อมปรับกลยุทธ์ ชูโมเดล O2O  สอดรับช้อปออนไลน์โต 9.49 แสนล้านบาท ด้านสมาคมของขวัญของชำร่วยชี้ตลาดของขวัญปี 61 ยังทรงตัว เชื่อบรรยายกาศการซื้อขายสิ้นปียังคึกคักแม้ไม่มีแรงสนับสนุนจากมาตรการรัฐ

นางสาวณาตยา สุริยภาณุมาศ ผู้จัดการโครงการอาวุโส บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ กล่าวว่า “นีโอ” เตรียมจัดงาน Gift Fest 2018 เทศกาลของขวัญของแต่งบ้านส่งท้ายปี ในระหว่างวันที่ 12-16 ธันวาคม 2561 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ห้องเพลนารี 1-3, อาคารซี ชั้น1-2, เมนโฟเย่, เอเทรี่ยม, ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 19  เพื่อเป็นแหล่งรวมการซื้อขายของขวัญของชำร่วยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  และในฐานะผู้จัดงานก็ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ โดยในปีนี้พบว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปี 2561 นี้ ตลาด E-Commerce กลุ่ม B2C มีมูลค่าตลาดราว 949,121.61 ล้านบาท หรือโตเฉลี่ยร้อยละ 28 ต่อปี และเพื่อให้การจัดงานครั้งนี้ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ประกอบกับมีแบรนด์สินค้าใหม่ๆ ที่จัดจำหน่ายในช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น จึงได้ดึงกลุ่มผู้ขายสินค้าในโลกออนไลน์ที่มีผู้ติดตามมาร่วมจำหน่ายภายในงาน ตามโมเดล O2O (Online to Offline) ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเห็นสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ได้สังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างใกล้ชิด และเป็นการสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์สินค้า แบบ Face to Face ด้วย

ในช่วง 11 เดือน ของปี 2561 พบว่ากำลังซื้ออยู่ในระดับทรงตัว แต่เชื่อว่าในช่วงสิ้นปีนี้จะมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากในช่วงปลายปีจะเริ่มถึงเทศกาลการเลือกซื้อของขวัญเพื่อมอบให้กัน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้การซื้อขายภายในงานมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมายผู้เข้าชมงานทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 120,000 คน และเกิดมูลค่าการซื้อขายไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาทนางสาวณาตยา กล่าว

ทั้งนี้ ภายในงานยังได้คัดสรรของขวัญของแต่งบ้านสุดพิเศษมาอย่างครบครันพร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วยโซนของขวัญของแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครเหมาะสำหรับคนชื่นชอบของขวัญที่มีความเฉพาะตัว โซนสินค้าเครื่องแต่งกายแฟชั่นที่มีแต่สินค้าแบรนด์ชั้นนำ โซนผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสปา โซนผลิตภัณฑ์ออแกนิค อาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งโซนบัตรกำนัล Gift Voucher เพื่อเป็นทางเลือกในการมอบของขวัญที่ไม่จำกัดว่าต้องเป็นสิ่งของเท่านั้น และได้ร่วมมือกับบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด หั่นราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุดถึง 50% โดยยกทัพแบรนด์ดังมากมาย อาทิ Panasonic, Kashiwa, OTTO, PHILIPS, SHARP, SKG, Tefal และ TOSHIBA  สำหรับผู้ที่ถือบัตรเครดิตกรุงศรีและบัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า เพียงใช้จ่ายสะสมต่อวัน ภายในงานครบ 5,000 บาทขึ้นไป แลกรับหมอนข้างกินจุง ช้อปจัง, กระเป๋าเป้ Rilakkuma 2 in 1 และกระเป๋าเดินทางล้อลากหมีกินจุง ขนาด 20 นิ้ว พร้อมแลกรับเครดิตเงินคืนเพิ่มสูงสุด 12%

นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าชมงานมากมาย ได้แก่ ต่อที่ 1 ลงทะเบียนเข้าชมงานรับถุงช้อปปิ้ง สำหรับ 400 ท่านแรกต่อวัน ต่อที่ 2 “ได้ช้อปได้บุญ!! ในซุ้ม Gift for Life…ของขวัญนี้พี่ให้น้อง” เพียงซื้อสินค้าในงานครบ 3,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาพิเศษตั้งแต่ราคา 9-99 บาท ซึ่งรายได้จากการจำหน่ายสินค้า โดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้แก่มูลนิธิเด็ก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเยาวชน ที่ด้อยโอกาสทั้งด้านสังคมและการศึกษา

ด้านนายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาคมของขวัญของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน กล่าวว่าทางสมาคมได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน Gift Fest มาด้วยดีในทุกปี โดยในครั้งนี้จะมีสมาชิกร้านค้าจากทางสมาคมร่วมจัดแสดงสินค้า คุณภาพส่งออก โดยเป็นสินค้าที่มีรูปลักษณ์สวยงาม มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันที่ชอบสินค้าที่สามารถบ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยผู้เข้าชมงานจะได้เลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายในราคาสุดพิเศษ

“การจัดงาน Gift Fest 2018 ในครั้งนี้คาดว่าจะได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งภายในงานยังมีการเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าออนไลน์ ได้มีโอกาสจัดแสดงสินค้าภายในงาน เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย รวมถึงได้พบกับผู้ซื้อโดยตรงอีกด้วย จึงเชื่อว่าบรรยายกาศการจัดงานในครั้งนี้จะมีความคึกคักอย่างแน่นอน” นายจิรบูลย์ กล่าว

สำหรับภาพรวมของตลาดของขวัญของชำร่วยและของแต่งบ้านในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตอยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบจากปีก่อน โดยในกลุ่ม Promotional Gift หรือของขวัญเพื่อส่งเสริมการขายมีมูลค่าราว 8,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับทรงตัว เป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่ได้เติบโตแบบโดดเด่นมากนัก ขณะที่กลุ่ม Food Gift และสินค้าของที่ระลึก เป็นสินค้าซื้อขายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ผ่านมามีการเติบโตในอัตราเฉลี่ย 5-6%  มูลค่าราว 40,000 ล้านบาท และสินค้ากลุ่ม Seasonal Gift หรือ ของขวัญตามเทศกาลและฤดูกาลอยู่ในระดับที่ทรงตัวเช่นกัน และจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปีแม้ภาครัฐจะออกนโยบายกระตุ้นการจับจ่ายไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มของขวัญ ของชำร่วย เนื่องจากในปีนี้ผู้ประกอบการไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบาย No Gift Policy โดยคาดการณ์ว่ากลุ่มสินค้า Seasonal Gift โดยเฉพาะกระเช้าของขวัญจะมีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

ขณะที่ตลาดส่งออกทั้งผลิตภัณฑ์ของขวัญและสินค้าเชิงไลฟ์สไตล์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 4.5 % มูลค่ากว่า 24,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากการทำสงครามการค้าของจีน และสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายมาร์เก็ตแชร์ในสหรัฐอเมริกาได้กว่า 35% 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดการจัดงานเพิ่มเติมได้ที่ www.thaibestbuys.com, facebook/ThailandBestbuys หรือสอบถามที่หมายเลข โทร. 0-2203-4222-5

Visitors: 11,025,006