พาณิชย์นำทัพเอกชนไทยรุกตลาด Middle East

กระทรวงพาณิชย์จัดทัพนักธุรกิจไทยเดินหน้าสร้างเครือข่ายทางพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ และแสวงหาลู่ทางด้านการค้าการลงทุนในตลาดบาห์เรน เมื่อวันที่ 27-29 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา กระตุ้นการค้าระหว่างกันให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงใช้ประโยชน์ในการกระจายสินค้าต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ รวมถึงเอเชียใต้

               รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์) เดินทางเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 27-29 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมาตามข้อเสนอของบาห์เรน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน และติดตามประเด็นความคืบหน้าต่างๆ ที่ได้หารือในการประชุม Joint Steering Committee ไทย-บาห์เรน ครั้งที่ 1  โดยเฉพาะการผลักดันการขยายการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไทยไปบาห์เรน

               นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า การเดินทางเยือนในครั้งนี้ได้มีทั้งคณะภาครัฐและเอกชนในกลุ่มสินค้าข้าว อาหารฮาลาล น้ำตาล ธุรกิจบริการ และธุรกิจก่อสร้างร่วมเดินทางเพื่อเจรจาการค้าและสำรวจลู่ทางหาโอกาสในการขยายธุรกิจการค้าการลงทุนในตลาดบาห์เรน พร้อมเข้าหารือกับ นายซาเยด บิน ราชิด อัล ซายานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์และการท่องเที่ยวของบาห์เรน เพื่อสานต่อความร่วมมือทางการค้าการลงทุน และผลักดันไทยเป็นฐานการผลิตด้านอาหารให้กับบาห์เรน เนื่องจากบาห์เรนมีความต้องการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากไทย อาทิ ข้าว ไก่ น้ำตาล น้ำมันพืช ผักและผลไม้

โดยการเยือนบาห์เรนครั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เชิญบริษัทรายใหญ่ของไทยที่สนใจขยายธุรกิจในตลาดตะวันออกกลาง อาทิ บริษัท CPF, Baiyoke Intertrade และGFPT Public Company Limited เข้าร่วมเจรจาการค้า และแสวงหาลู่ทางการค้าการลงทุน ตลอดจนโอกาสในการขยายธุรกิจในตลาดบาห์เรนและตะวันออกกลาง ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดมูลค่าการเจรจาการค้าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เกิดคู่ค้าและพันธมิตรทางมิตรใหม่ๆ อันนำไปสู่ความร่วมมือลงทุน/ร่วมทุนระหว่างกันในอนาคต เป็นผลให้มูลค่าการค้าการลงทุนรวมระหว่างไทย-บาห์เรนขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงได้ติดตามความคืบหน้าโครงการ Thai Mart ศูนย์ค้าปลีกในการจำหน่ายสินค้า/บริการไทยในบาห์เรน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตกแต่ง และคาดว่าจะเปิดจำหน่ายสินค้าไทยได้ในเดือนเมษายน 2562 โดยฝ่ายบาห์เรนได้แจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า คณะรัฐมนตรีบาห์เรนได้อนุมัติให้ภาคเอกชนไทยสามารถถือหุ้นในโครงการ Thai Mart ได้ 100% จึงนับเป็นสัญญาณอันดีที่จะเปิดโอกาสให้สินค้าไทยเจาะเข้าสู่ตลาดบาห์เรนและตะวันออกกลางได้มากขึ้น

ทั้งนี้ กรมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการผลักดันการค้าเชิงรุก โดยเฉพาะตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้ ซึ่งแม้ว่าจะยังมีสถานการณ์ไม่สงบในประเทศ แต่ก็เป็นตลาดกำลังพัฒนาที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จึงเป็นตลาดที่ละทิ้งไม่ได้ โดยต้องคอยมองหาโอกาสและปรับช่องทางในการเข้าสู่ตลาดให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในตลาดและสามารถเข้าครองสัดส่วนตลาดได้อย่างยั่งยืน

               แม้บาห์เรนจะดูเป็นตลาดขนาดเล็กของไทย โดยในปี 2560 การค้าระหว่างไทย-บาห์เรนมีมูลค่ารวม 290.12 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไทยยังสามารถใช้ประโยชน์จากสภาพทางภูมิศาสตร์ของบาห์เรน ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งบนเส้นทางที่เป็นจุดผ่านและกระจายสินค้าไปยังตลาดสำคัญอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง อาทิ ซาอุดิอาระเบีย รวมถึงตลาดนอกภูมิภาคอย่างแอฟริกาเหนือ เอเชียใต้ และเอเชียกลาง

 

               สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจขยายตลาดสินค้าและบริการไทย หรือดำเนินธุรกิจในตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้ สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมของกรมฯ ได้ทาง https://drive.ditp.go.th หรือหากท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ DITP Call Center 1169 หรือ โทร 02-507-8237, 02 507-8239 และ 02 507-8242

Visitors: 11,025,230